Hero photograph
 
Photo by Chonnanit Na Songkhla

Day 27 of Lockdown

Chonnanit Na Songkhla —

วันอังคารที่ 21 เมษายน 2020 | TUESDAY 21 APRIL 2020

วันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 คน ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับเคสก่อนๆ และมีผู้เสียชีวิต 1 คน จากบ้านพักคนชราในย่านตะวันตกของเมืองโอ๊คแลนด์ โดยผู้เสียชีวิตท่านนี้เป็นหญิงอายุ 70+ ปี ทำให้ในวันนี้นิวซีแลนด์มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 13 คน
จำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวใน ICU ทั่วประเทศคือ 3 คน จำนวนผู้โดยสารชาวนิวซีแลนด์ที่เดินทางเข้าประเทศและอยู่ระหว่างการกักตัวในช่วงนี้ คือ 2,038 คน

นักเรียนกับการกลับไปเรียน

วันนี้ Chris Hipkins รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนิวซีแลนด์ออกมาแถลงข่าวว่านักเรียนส่วนใหญ่จะยังได้รับการคาดหวังให้เรียนหนังสืออยู่กับบ้าน แม้เมื่อประเทศย้ายเข้าสู่ Alert Level 3 และว่าโรงเรียนจะเปิดก็จริง แต่ก็เปิดเฉพาะสำหรับนักเรียน 14 ปีและต่ำกว่าที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ดูแลที่บ้านเท่านั้น หอพักนักเรียนประจำจะยังไม่เปิดทำการสำหรับเลเวลนี้ รวมทั้งนักเรียนซีเนียร์ เยียร์ 11-13 (อายุ 15 ปีขึ้นไป) ก็ยังจะเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่อยู่หอหรือแฟลตในช่วงล็อคดาวน์เลเวล 4 ก่อนหน้านี้ ยังได้รับอนุญาตให้อยู่ในหอต่อไป แต่เด็กหอที่กลับไปบ้านในช่วงเลเวล 4  รวมทั้งเด็กหอที่ออกไปอยู่โฮมสเตย์ ขอให้อยู่ที่บ้านตนเองหรือบ้านโฮสต์ต่อไป ยังห้ามไม่ให้กลับเข้าหอ

โรงเรียนสามารถใช้ช่วงเวลาก่อนจบล็อคดาวน์เลเวล 4 (ก่อนวันที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็น Teacher-only day) จัดการปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดโรงเรียนหรือเตรียมการสอนได้ กระทรวงฯให้ผู้บริหารโรงเรียนสามารถตัดสินใจได้ว่าจะให้ครูคนไหนกลับมาสอน ขึ้นอยู่กับอายุของครูว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีกลุ่มเสี่ยงอยู่ที่บ้านหรือเปล่า และเมื่อโรงเรียนเปิด กระทรวงคาดหวังให้โรงเรียนจัดการให้มีการทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้งที่กลุ่มนักเรียนสลับกันเข้าไปใช้ ซึ่งแปลว่าโรงเรียนต้องจัดให้มีช่วงการเข้าห้องน้ำที่เหลื่อมกัน

Distance Learning ระหว่างการล็อคดาวน์

โรงเรียนในนิวซีแลนด์ได้ใช้สื่อการเรียนการสอนทั้งแบบออนไลน์และสอนทางไกลผ่านทางโทรทัศน์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีจำนวนบ้านเรือนถึง 649,000 หลังที่เข้าชมการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์

การปรับเข้าสู่ Level 3 ของพ่อแม่และเด็กๆ

ในล็อคดาวน์เลเวล 3 คาดว่าจะมีประชากรผู้ใหญ่ประมาณ 400,000 คนสามารถกลับไปทำงาน และอีกประมาณ 1 ล้านคน ยังคงอยู่ที่บ้าน ทางรัฐบาลอยากให้พ่อแม่เริ่มหา "ผู้ช่วย" ซึ่งอาจเป็นญาติหรือเพื่อน มาช่วยดูแลเด็กๆ ที่บ้าน เพื่อให้ยังสามารถเรียนรู้อยู่กับบ้านได้และไม่ต้องไปโรงเรียน ในกรณีโรงเรียนบางแห่งไม่สามารถจัดให้มีระยะห่างหรือสุขอนามัยที่ดีพอ ทางกระทรวงมีแนวทางให้โรงเรียน "ถ่ายเด็ก" ไปเรียนที่โรงเรียนอื่นที่มีความพร้อมมากกว่าได้ หลักๆ คือต้องให้เด็กมีบับเบิ้ลขนาดเล็กที่สุด แต่ละบับเบื้ลอยู่ห่างกันมากที่สุด และให้รักษาสุขอนามัยให้ดีในระหว่างอยู่ที่โรงเรียน

แล้วการเก็บคะแนน NCEA ต้องทำยังไง

ทางกระทรวงได้ให้แนวทางกับแต่ละโรงเรียนไปแล้ว ว่าถ้าเด็กเก็บคะแนนไม่ทันจะต้องทำอะไรเป็นการทดแทน ซึ่งอาจหมายถึงการประวิงการเก็บคะแนน internal ในเลเวล 1 (เยียร์ 11) ไปเป็นปีหน้าในขณะที่เรียนอยู่เยียร์ 12 หรือให้นักเรียนทำงานจากที่บ้านมาส่งแทนการสอบเก็บคะแนน และว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าโควิด-19 จะมีผลกระทบอย่างไรต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา และตั้งข้อสังเกตุว่าแม้แต่แผ่นดินไหวที่ไคร้สท์เชิร์ชที่ผ่านมาก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับผลสัมฤทธิ์ตลอดปีของนักเรียนในเมืองนั้นมากเท่าไหร่นัก